คลิกเพื่อตรวจสอบราคา
*สีของสินค้าจริงอาจแตกต่างจากรูป เนื่องจากการแสดงผลของหน้าจอที่แตกต่างกัน
ข้อมูลทางเทคนิค
ผลิตภัณฑ์ : สีเคลือบแข็งผิวโลหะและอโลหะทุกชนิด NP302 (Top Coat paint for All Metal Surface and Non-Metal Surfaces)
ลักษณะผลิตภัณฑ์ : เป็นสีเคลือบโพลิยูรีเทน 2 องค์ประกอบ ใช้เคลือบพื้นผิว และช่วยปรับพื้นผิวให้มีความเรียบเนียน มีความแข็งแรงทนทาน สามารถปกป้องจากน้ำมัน สารเคมี ทนต่อแสง UV และทนต่อการขูดขีดได้ดี มีความเงางาม ไร้รอยต่อ ใช้งานง่ายด้วยเกรียงขัดมัน แปรงทาสี ลูกกลิ้ง และเครื่องพ่น เหมาะกับพื้นโรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า ผิวเหล็กทุกชนิด เช่น สแตนเลส เหล็กกัลวาไนซ์ อลูมิเนียม ไม้จริง ไม้เทียม กระเบื้อง และกระจก เป็นต้น
ขอบเขตการใช้งาน : ใช้ปรับระดับพื้นผิวให้เรียบเนียนขึ้น หรือใช้เคลือบผิว สามารถใช้งานได้ทั้งผิวปูนฉาบผิวคอนกรีต เหล็กทุกชนิด สแตนเลส เหล็กกัลวาไนซ์ อลูมิเนียม ไม้จริง ไม้เทียม กระเบื้อง และกระจก เป็นต้น ใช้ได้ทั้งภายนอกและภายใน
วัตถุดิบ
โพลิยูรีเทน 2 องค์ประกอบ (Part A : Polymer และ Part B : Hardener)
สารเคมีเพิ่มคุณภาพ เช่น สารป้องกันเชื้อรา สารกำจัดความชื้น สารเพิ่มความแข็ง เป็นต้น
แม่สี (Pigment)
วิธีการใช้งาน
กรณีใช้งานกับพื้นผิวปูน คอนกรีต ไฟเบอร์ซีเมนต์
การเตรียมพื้นผิว
ขัดผิวหน้าบริเวณที่ต้องการทาสีให้เรียบ สม่ำเสมอ ไม่มีฝุ่น คราบน้ำมัน สารเคมี หรือสิ่งซึ่งอาจมีผลต่อการยึดเกาะ และต้องไม่มีผิวหน้าที่ไม่แข็งแรง
พื้นผิวที่จะทาต้องแห้งสนิท ความชื้นของพื้นผิวต้องไม่มากกว่า 4%RH ด้วยเครื่องวัดความชื้น
ทารองพื้นด้วย NP301P สีทารองพื้นพิเศษ จำนวน 1 เที่ยว เพื่อปรับสภาพของพื้นผิวให้มีความสม่ำเสมอ ไม่มีตำหนิจากรอยแตกร้าว จากนั้นปล่อยให้สีแห้งสนิท 24 ชั่วโมง
การใช้งาน
ผสม NP302 Part A : Part B ตามอัตราส่วนที่กำหนด ให้เข้ากันดีด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม โดยไม่ต้องเติมทินเนอร์เพิ่ม
จากนั้นใช้ลูกกลิ้งทาสี ลงบนพื้นผิวที่ลงรองพื้นไว้แล้ว ให้เรียบได้ระดับและมีความหนาสม่ำเสมอ
ปล่อยสีทิ้งไว้ให้แห้งสนิท
ลงสีชั้นที่ 2 โดยทำตามขั้นตอนที่ 1 และ 2 โดยใช้แปรงหรือลูกกลิ้งทาสีให้เรียบได้ระดับและมีความหนาสม่ำเสมอ ทับสีที่ได้ลงไว้ชั้นแรก
สามารถเปิดใช้งาน Light Load ได้หลังจากทำงานเสร็จแล้ว 1 วัน และงาน Heavy Load ได้หลังทำงานเสร็จแล้ว 7 วัน
กรณีใช้งานกับพื้นผิวที่เป็นโลหะ
การเตรียมพื้นผิว
ขัดผิวหน้าบริเวณที่ต้องการทาสี โดยไม่ให้มีคราบสนิมเหล็ก ให้เรียบ สม่ำเสมอ ไม่มีฝุ่น คราบน้ำมัน สารเคมี หรือสิ่งซึ่งอาจมีผลต่อการยึดเกาะ และต้องไม่มีผิวหน้าที่ไม่แข็งแรง
ทำความสะอาดพื้นผิว โดยขจัดฝุ่น คราบน้ำมัน สารเคมี หรือสิ่งซึ่งอาจมีผลต่อการยึดเกาะออก
ลงสีรองพื้นกันสนิม-NP110 โดยคนสีในกระป๋องให้เข้ากัน ไม่จำเป็นต้องผสมทินเนอร์หรือวัสดุอื่นเพิ่มเติม เช่น น้ำมันสน เป็นต้น หากต้องการปรับความหนืดให้เหมาะสมกับการทำงาน ให้เติม ทินเนอร์ทีพีไอ ไม่เกิน 15% โดยปริมาณ
พ่นสีรองพื้นกันสนิม-NP110 ลงบนพื้นผิวที่เตรียมไว้ 1-2 เที่ยว จนได้ความหนา 60 ไมครอน จากนั้นรอให้ชั้นสีแห้งอย่างน้อย 5-6 ชั่วโมง แล้วจึงเคลือบทับด้วยสีจริงชั้นต่อไป
การใช้งาน
ผสม NP302 Part A : Part B ตามอัตราส่วนที่กำหนด ให้เข้ากันดีด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม หากต้องการปรับความหนืดให้เหมาะสมกับการทำงาน ให้เติมทินสำหรับสี NP302 ได้ไม่เกิน 15% โดยปริมาตร
จากนั้นใช้ลูกกลิ้งทาสีหรือเครื่องพ่นสีลงบนพื้นผิวที่ลงรองพื้นไว้แล้ว ให้เรียบได้ระดับและมีความหนาสม่ำเสมอ
ปล่อยสีทิ้งไว้ให้แห้งสนิท
ลงสีชั้นที่ 2 ตามขั้นตอนที่ 1 โดยใช้ลูกกลิ้งทาสีหรือเครื่องพ่นสีลงบนพื้นผิว ให้เรียบได้ระดับและมีความหนาสม่ำเสมอ ทับสีที่ได้ลงไว้ชั้นแรก
สามารถนำไปใช้งานได้หลังจากทำงานเสร็จแล้ว 1 วัน
ข้อควรระวัง
ขั้นตอนการผสม Part A : Part B ให้เป็นเนื้อเดียวกันมีความสำคัญมาก หากผสมไม่เข้ากันดีจะส่งผลให้ฟิล์มสีหลังแห้งตัวไม่ยึดเกาะกับพื้นผิว ลอก หลุดล่อนได้
พื้นผิวที่ต้องการทาสีต้องแห้งสนิท เพราะความชื้นจะทำให้สี บวม พอง และเกิดการหลุดล่อนได้ง่าย
ขณะผสมและขณะใช้งาน ให้ระวังไม่ให้หยดน้ำ เหงื่อ หรือทินเนอร์ หยดลงไปบนสีที่จะทา อาจทำให้เกิดการบวมพองได้
เมื่อผสม Part A และ Part B แล้ว ควรใช้ให้หมดภายใน 30 นาที
สามารถใช้ทินเนอร์ล้างอุปกรณ์และภาชนะทาสีได้
ปริมาณการใช้งาน
ขนาดบรรจุภัณฑ์
น้ำหนักบรรจุ
อัตราส่วนผสม
ทาได้พื้นที่ประมาณ*
Part A
Part B
Part A : Part B
¼ gallon
0.9 kg
0.45 kg
2 : 1
5 ตารางเมตร
1 gallon
3.8 kg
1.9 kg
2 : 1
20 ตารางเมตร
หมายเหตุ :* สำหรับการทา 1 เที่ยว
คุณลักษณะของ NP302
Touch Dry
Hard Dry
Pot life (25ºc)
Fully Cure
Mohs Hardness
Hardness (Shore D)
20-30 min.
2 h
30 min.
7 days
4
Min. 70