Bannner_News
You are here:Home/ข่าวสาร/ข่าวประชาสัมพันธ์/ข่าวประชาสัมพันธ์

บริษัท ทีพีไอ โพลีน (มหาชน) จำกัด ได้รับเกียรติอย่างสูงสุดให้เข้าร่วมเป็นสมาชิก World Cement Association (WCA)

World Cement Association (WCA) องค์กรอุตสาหกรรมปูนซีเมต์ระดับโลก เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรจดทะเบียนตามกฎหมายประเทศอังกฤษ เพื่อดำเนินการและประสานงานกับกลุ่มสมาชิกทั่วโลกให้ทำงานตามมาตราฐานระดับโลกและส่งเสรมพัฒนาอุตาสหกรรมปูนซีเมนต์และปูนเม็ดให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

บริษัท ทีพีไอ โพลีน (มหาชน) จำกัด ได้รับเกียรติอย่างสูงสุดให้เข้าร่วมเป็นสมาชิก  World Cement Association (WCA) อย่างเป็นทางการ วันที่ 28 December 2017

 

โครงการ Architecture design contest 2018


โครงการ Architecture design contest 2018

การประกวดแข่งขันการออกแบบ เพื่อช่วยให้นิสิต/นักศึกษาเกิดความตื่นตัว และได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯอย่างเหมาะสม สามารถนาข้อมูลมาใช้ในการออกแบบผลงานส่งเข้าประกวด เพื่อชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 150,000 บาท ทั้งนี้ หลังจบการประกวด ทางบริษัทฯ

จะได้นำแบบบ้าน ที่ผ่านรอบคัดเลือกทั้งหมด จานวน 10 ผลงาน ไป เผยแพร่งานออกแบบให้กับประชาชนทั่วไปที่สนใจนาไปปรับใช้ อันจะเป็นการก่อให้เกิดประโยชน์กับสังคมอีกทางหนึ่งด้วย

 

รายละเอียด | ใบสมัคร

 


 

วันและเวลา ประกาศผลงานที่เข้ารอบ  10 แบบสุดท้าย

       รอบการคัดเลือก

  • แจ้งผลการตัดสินผลงานผ่านการคัดเลือก จำนวน 10 ผลงาน ภายใน วันที่ 2 มีนาคม 2561
  • และเชิญโหวตแบบยอดนิยม 5 อันดับตั้งแต่วันที่ 2-21 มีนาคม 2561 ทาง https://www.facebook.com/TPIPolene/

* หมายเหตุสำหรับ 10 แบบที่ผ่านเข้ารอบทางบริษัทจะมี email แจ้งกลับไปภายในวันที่ 2 มีนาคม 2561 อีกครั้งนึง

INSIDE BUSINESS NEWS CEO TALK สัมภาษณ์ คุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์

รายงานการวิจัย ผลของผลิตภัณฑ์ ทีพีไอ-โปรไบโอติกส์ และ ผลิตภัณฑ์ทีพีไอ-ซินไบโอติกส์ ต่อสมรรถนะการผลิตของไก่เนื้อ

รายงานการวิจัย

ผลของผลิตภัณฑ์ ทีพีไอ-โปรไบโอติกส์ และ ผลิตภัณฑ์ทีพีไอ-ซินไบโอติกส์

ต่อสมรรถนะการผลิตของไก่เนื้อ

(Effects of TPI-Probiotics and TPI-Synbiotics on performance of broilers)

 

            บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด(มหาชน) ได้ว่าจ้างสถาบันวิจัยเอกชน Bangkok Animal Research Center Co., Ltd. (BARC) เพื่อทดสอบผลิตภัณฑ์ ทีพีไอ-โปรไบโอติกส์ และ ทีพีไอ-ซินไบโอติกส์ ต่อสมรรถนะการผลิตของไก่เนื้อ

 

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ ประเมินผลของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสัตว์ ทีพีไอ-โปรไบโอติกส์และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสัตว์ ทีพีไอ-ซินไบโอติกส์ ต่อสมรรถนะการผลิตของไก่เนื้อตลอดระยะเวลาเลี้ยง 35 วัน (ตั้งแต่ฟักจนอายุ 35 วัน) ภายใต้สภาวะการเลี้ยงแบบหนาแน่น โดยจัดแบ่งการทดลองออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 กลุ่มควบคุม (ไม่ใช้สารเร่งการเจริญเติบโตประเภทสารปฏิชีวนะ ไม่ใช้ทีพีไอ-โปรไบโอติกส์ และ ไม่ใช้ทีพีไอ-ซินไบโอติกส์) กลุ่มที่ 2 กลุ่มเติมสารปฏิชีวนะ Zinc bacitracin 20 ppm ซึ่งในการทดลองนี้ใช้เป็นตัวแทนสารเร่งการเจริญเติบโตประเภทสารปฏิชีวนะ กลุ่มที่ 3 กลุ่มเติมทีพีไอ-โปรไบโอติกส์ 1 % และ กลุ่มที่ 4 กลุ่มเติมทีพีไอ-ซินไบโอติกส์ 1 %

ผลการทดลองแสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า การใช้ทีพีไอ-โปรไบโอติกส์ 1 % และ ทีพีไอ-ซินไบโอติกส์ 1 % สามารถส่งเสริมสมรรถนะการผลิตไก่เนื้อตลอดระยะเวลาการเลี้ยง 35 วัน โดยเพิ่มน้ำหนักตัวของไก่เนื้อ และ เพิ่มอัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อ ได้มากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และให้ผลไม่แตกต่างจากกลุ่มเติมสารปฏิชีวนะ Zinc bacitracin 20 ppm ผลิตภัณฑ์ทีพีไอ-โปรไบโอติกส์ และ ผลิตภัณฑ์ทีพีไอ-ซินไบโอติกส์ มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมสมรรถนะการผลิตไก่เนื้อไม่แตกต่างกัน และ มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับสารปฏิชีวนะ Zinc bacitracin

 ตารางที่ 1  ผลของทีพีไอ-โปรไบโอติกส์ และ ทีพีไอ-ซินไบโอติกส์ ต่อสมรรถนะการผลิตของไก่เนื้อ (0-35 วัน)

 

 

กลุ่มการทดลอง

สมรรถนะการผลิตของไก่เนื้อ

น้ำหนักตัวไก่เนื้อ

(กรัม)

อัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อ

อัตรารอดตายของไก่เนื้อ (%)

ควบคุม

 

2495b

1.574 b

94.64

สารปฏิชีวนะ Zinc bacitracin 20 ppm

2673a

1.448 a

97.32

ทีพีไอ-โปรไบโอติกส์ 1 %

 

2665a

1.451 a

98.22

ทีพีไอ-ซินไบโอติกส์ 1 %

 

2666a

1.462 a

99.11

CV (%)

 

1.83

2.48

4.16

 

 

สรุปผลการวิจัย

                         ผลการวิจัยจาก สถาบันวิจัย Bangkok Animal Research Center Co., Ltd. (BARC) เปรียบเทียบระหว่างการใช้ยาปฏิชีวนะและสารซินไบโอติกส์ของทีพีไอพีแอลกับไก่เนื้อทดลอง แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า อัตราการการเจริญเติบโต อัตราการแลกเปลี่ยนเนื้อ และอัตราการรอดตายมีผลใกล้เคียงกับการใช้สารปฏิชีวนะ แต่มีผลดีกว่าชุดควบคุม ข้อดีของการใช้ซินไบโอติกส์ที่ได้เปรียบเหนือกว่าการใช้ยาปฏิชีวนะคือ ต้นทุนการเลี้ยงถูกลง การสร้างภูมิต้านทานให้กับสัตว์ ทำให้ทนต่อโรค และช่วยทำให้เนื้อสัตว์ปราศจากสารปฏิชีวนะตกค้าง ไม่เป็นอันตรายกับผู้บริโภค อีกทั้งยังทำให้อาหารประเภทเนื้อสัตว์ส่งออกเป็นไปตามมาตรฐานสากลของความปลอดภัยในการส่งออกไปยังประเทศต่างๆได้แก่ ประเทศในแถบยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ